แห่ส่องเลขเด็ด พิธีบวงสรวง เจ้าพ่อเชียงโด ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ หลังจากไม่เคยมีพิธีมากว่า 10 ปี เผยตำนานความศักดิ์สิทธิ์ เด่นเรื่องโชคลาภ
วันที่ 12 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเชียงโด ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ.ผือ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีรำบวงสรวงเจ้าพ่อเชียงโด ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2566 ของชุมชนบ้านผือ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ ให้คงอยู่ และสืบทอดกันต่อไป
โดยมี น.ส.เพียงเดือน เทพวงศ์ศิริรัตน์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พระครูรัตนธรรมาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดสว่างบ้านผือ นายปรีชา สีโสดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนบุรี นายอังกูร สีโสดา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และประชาชนชาวตำบลรัตนบุรีกว่า 1,000 คน เข้าร่วมพิธี
ภายหลังจากพิธีเปิด ก็ได้มีการรำบวงสรวงเจ้าพ่อเชียงโด เพื่อเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปี 2566 และเพื่อขอพร ให้ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีนางรำกว่า 200 คน ร่วมฟ้อนรำอย่างสวยงาม
แห่ส่องเลขเด็ด พิธีบวงสรวง เจ้าพ่อเชียงโด ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ หลังจากไม่เคยมีพิธีมากว่า 10 ปี
หลังจากเสร็จพิธี ชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาได้เข้าไปจุดธูปกราบไหว้ขอพรที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเชียงโด เพื่อขอโชคลาภ โดยใช้ธูปเสี่ยงทายตามความเชื่อของชาวบ้านที่มีมานาน และภายหลังจากธูปไหม้จนหมด ธูปเสี่ยงทายก็ปรากฏเป็นเลข 455 ซึ่งชาวบ้านต่างพากันฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่มีการจุดธูปเสี่ยงทายขึ้น
เพราะที่ผ่านมา ชุมชนไม่ได้จัดงานแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว แต่เดิมก็มีเพียงชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธา พากันมากราบไหว้ขอพรกันตามปกติธรรมดา เพราะว่าในบริเวณนี้แต่ก่อนยังไม่ได้มีการพัฒนา ทางเข้าออกมาค่อนข้างลำบาก เพราะยังเป็นป่าทึบ ซึ่งก็ต่างสมหวังกันไปตาม ๆ กัน จนเป็นที่เล่าขานในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และในเรื่องโชคลาภอย่างมาก
แต่ครั้งนี้เป็นพิธีไหว้บวงสรวงที่นับว่ายิ่งใหญ่มาก และเป็นครั้งแรกของชุมชนที่จัดขึ้นในรอบกว่า 10 ปี ทำให้หลายคนตื่นเต้นมาก และต่างก็จะนำเอาเลขมงคลที่ได้นี้ไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดวันที่ 16 พ.ค.นี้ โดยหวังจะมีโชคกันถ้วนหน้า ซึ่งในรอบกว่า 10 ปี ชาวบ้านในชุมชนอาจจะมีโชคครั้งใหญ่ในงวดนี้ก็เป็นได้
สำหรับศาลเจ้าพ่อขอดเชียงโด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำห้วยแก้ว ที่เรียกว่า “ขอดเชียงโด” ซึ่งเป็นตาน้ำธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน มีมานานนับ 100 ปีแล้ว โดยน้ำได้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า “อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว” ที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคของชาวอำเภอรัตนบุรีมายาวนาน
ปัจจุบันเป็นแหล่งน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอรัตนบุรี ที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายไปให้กับ อ.รัตนบุรี และอำเภอใกล้เคียง ซึ่งศาลเจ้าพ่อขอดเชียงโดนั้น ยังไม่มีใครทราบประวัติว่ามีการสร้างมาตั้งแต่สมัยใด แต่มีการเล่าต่อ ๆ กันมาว่าน่าจะมีอายุนับ 100 ปีขึ้นไป และมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องขอพร และขอโชคลาภ
นายนรินทร์ เพิ่มทอง อายุ 81 ปี ชาวชุมชนบ้านผือ กล่าวว่า ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์นั้น ตามที่ตนได้เคยเห็นมา มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีชาวบ้านหนองเทพ ซึ่งสมัยแต่ก่อนจะเดินทางมาซื้อของในตลาด อ.รัตนบุรี ต้องเดินเท้ามากันหลายคน และจะต้องมาแวะกินข้าวเที่ยงที่ยอดเชียงโด ซึ่งจะมีแหล่งน้ำผุดขึ้นจากดิน และต่างก็จะพากันมาตักน้ำที่นี่กินกัน
นายนรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่มีอยู่คนหนึ่งที่มาด้วยติว่า น้ำที่นี่เหม็นเหมือนตด ซึ่งน้ำที่นี่จะเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากดินขาว ซึ่งดินขาวจะมีกลิ่นหอม โดยชาวบ้านที่นี่มักจะมาตักเอาไปดื่มกิน เพราะว่ามีกลิ่นหอม แต่คนที่บอกว่ามีกลิ่นเหม็นนั้น เมื่อเดินทางต่อไปตลาดก็ได้ไปนอนพักอยู่ที่บ้านผือใหญ่ก่อนถึงตลาด ก็ปรากฏว่าไปนอนตายเฉย ๆ
นายนรินทร์ กล่าวอีกว่า ซึ่งชาวบ้านต่างก็เล่าลือถึงความศักดิ์สิทธิ์กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านที่นี่ก็มักจะพากันมาไหว้ศาลเจ้าพ่อเชียงโดกันทุกปีในช่วงเดือนเม.ย. โดยเฉพาะคนมีโชคลาภก็มักจะมากันบ่อย และต่างก็สมหวังกันไปตาม ๆ กันอีกด้วย
cr.ข่าวสด